ข้อควรรู้ก่อนไปเรียนประเทศอังกฤษ

ข้อควรรู้ก่อนไปเรียนประเทศอังกฤษ

ข้อควรรู้ก่อนไปเรียนประเทศอังกฤษ

ไปเรียนต่อต่างประเทศทั้งที สิ่งที่จะต้องเจอเลยคือความแตกต่างเรื่องอะไรบ้างล่ะ อันดับ แรกเลย คือ ภาษา ตามมาด้วย วัฒนธรรม อาหาร อากาศ เวลา ระบบการศึกษา กฎหมายและกฎของนักเรียนต่างชาติที่พักอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องทราบ เลยนะคะ วันนี้พี่ ABROADY รวบรวมสิ่งต่าง ๆ เบื้องต้นที่ควรรู้มาบอกเล่าให้ฟัง ไปดูกันเลยมีหัวข้ออะไรบ้าง

  • ทำความรู้จักกับประเทศอังกฤษ
  • ดูก่อนว่าระบบการศึกษาเป็นอย่างไร
  • ภาคการศึกษาในอังกฤษ
  • เลือกโปรแกรมเรียนที่ใช่ตอบโจทย์ก่อนตัดสินใจ
  • เช็คก่อนว่าทำงานได้มั้ย อย่างไร
  • วางแผนหลังหลังเรียนจบ

#ทำความรู้จักกับประเทศอังกฤษ

อังกฤษหรือ England เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร (United Kingdom) มีพรมแดนติดกับ สกอตแลนด์ทางเหนือ เวลส์ทางตะวันตก ทิศใต้ติดช่องแคบอังกฤษ คั่นระหว่างประเทศอังกฤษกับ ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงของอังกฤษคือ ลอนดอน เป็นมหานครใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร 

ภูมิประเทศตอนกลางและตอนใต้ส่วนใหญ่เป็นเขาเตี้ย ๆ และที่ราบ ทางเหนือและตะวันตก เฉียงใต้เป็นที่สูง ด้านการศึกษาสำหรับเด็กต่างชาติ และมหาวิทยาลัย ชื่อดังของประเทศก็ติด อันดับ Top 10 ของโลกเลย สิ่งสำคัญเลยคือการเรียนไม่ว่าจะระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโทในอังกฤษ ใช้เวลาเรียนน้อย กว่าเรียนในประเทศอเมริกาหรือแคนาดา

อังกฤษ เป็นส่วนหนึ่งของ สหราชอาณาจักร (ชื่อเต็ม United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland หรือเรียกสั้นๆ United Kingdom)  มีพื้นที่ 244,820 ตารางกิโลเมตร มีประชากรทั้งหมด 66,040,229 คน (ข้อมูลประชากรจาก Wikipedia 30 มิถุนายน 2017)* เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ คือ ลอนดอน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษ

ภาษาทางการของอังกฤษมี 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษและภาษาเวลซ์ แต่จะใช้ภาษาอังกฤษกันซะส่วนใหญ่และแพร่หลายมาก เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้สนใจมาเรียนต่อที่อังกฤษเป็นจำนวนมาก ยังมีบางพื้นที่ใช้ภาษา Cornish อยู่  

เวลาของประเทศอังกฤษ : เดินช้ากว่าไทย 7 ชั่วโมง (วันที่ 29 ต.ค. – 26 มี.ค.) เดินช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง (วันที่ 26 มี.ค. – 29 ต.ค.)   

จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมอย่างมาก ได้แก่ ลอนดอน (London) เป็นเมืองท่องเที่ยวและการศึกษา มีพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม (Buckingham Palace) พระราชวังวินด์เซอร์ (Windsor Castle) คือพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก, หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London) ลอนดอนอาย หรือชิงช้าสวรรค์ที่สูงในทวีปยุโรป หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ Millennium Wheel เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก, แม่น้ำไทน์ (River Tyne) อยู่ในเมืองนิวคาสเซิล (Newcastle) อยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษ, แม่น้ำแคม (River Cam) อยู่ใน Cambridge, ถนนอ๊อกซ์ฟอร์ด (Oxford Street) แหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนม, คาสเซิลคอมบ์ (Castle Combe) เมืองเล็กๆที่น่ารักที่สุดในคอตส์โวลด์ มีปราสาท สวยอังกฤษสวยๆ บ้าน ร้าน โบสถ์ที่ร้างด้วยหิน เดินเที่ยวมชมถ่ายรูปบรรยากาศสวยๆ หรือถ้าพูดถึงอังกฤษต้องนึกถึงฟุตบอล ไปชมการแข่งขันฟุตบอล ที่สนามฟุตบอลแอนฟีลด์ อีกหลายๆที่ของอังกฤษที่เป็นที่นิยมเยอะแยะมากมาย  

สภาพภูมิอากาศประเทศอังกฤษ

ฤดูช่วงเดือนสภาพอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)มี.ค. – พ.ค. อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก บางวันอุ่น มีแดดจัดในช่วงเช้า ในช่วงบ่ายอาจหนาวเย็นหรือมีฝน
ฤดูร้อน (Summer)มิ.ย. – ส.ค.อากาศอบอุ่นและแดดจ้า
ฤดูใบไม้ร่วง(Autumn)ก.ย. – พ.ย.อากาศเย็นขึ้นเรื่อย ๆ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่น
ฤดูหนาว (Winter)ธ.ค. –  ก.พ.อากาศหนาวมากที่สุด มีหิมะตกบางพื้นที่ ช่วงเวลากลางคืนยาวกว่า และมืดเร็วกว่าปกติ

#ดูก่อนว่าระบบการศึกษาเป็นอย่างไร

ระบบการศึกษาแบบอังกฤษแบ่งออกเป็น 4 ระดับ (แตกต่างกับระบบการศึกษาของไทย)

  1. Primary Education หรือ ระดับประถมศึกษา เริ่มเข้าเรียนประถมอายุ 5 ขวบ เรียนมัธยมศึกษาอายุ 11 ปี เรียนเน้นพัฒนาทักษะเป็นไปตามวัย เพื่อเตรียมสอบ Common Entrance Examination (CEE) เตรียมความพร้อมเข้าเรียนระดับมัธยม
  2. Secondary Education หรือ ระดับมัธยมศึกษา ระดับชั้นของนักเรียนอังกฤษช่วงอายุ 13 ปีขึ้นไป เรียนจนถึง 18 – 19 ปี เรียก Year 9 – Year 13 ขึ้นชั้นเรียนทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ปีต้องสอบ GCSE (General Certificates of Secondary Education) เพื่อจบการศึกษาในระดับนี้ (เทียบได้ไทยคือ ม.3 – ม.4) 

GCSE เรียนวิชาบังคับ 3 วิชา คือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์  และเรียนเพิ่มได้ แต่เลือกสอบ GCSE 5-10 วิชา สอบได้เกรด C ขึ้นไปจะถือว่าสอบผ่าน

ผู้ที่เรียนระดับ A-Levels หรือ Advance Level ก็เพื่อต้องการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย A-Level เรียนต่อจาก GCSE (เทียบได้กับ ม.5 และ ม.6) มีลักษณะที่คล้ายกัน คือ เรียนวิชาที่สนใจและสามารถใช้เรียนในระดับที่สูงขึ้นไปค่ะ

“การศึกษาภาคบังคับของเด็กอังกฤษทุกคนต้องจบอย่างน้อย 2 ระดับแรก”

  1. Vocational School/ Further Education หรือ ระดับอาชีวศึกษา

สำหรับผู้ที่จบ Secondary Education เด็กบางคนเลือกออกไปทำงาน  หรือไม่ประสงค์เรียนต่อระดับอุดมศึกษา แต่ต้องการมีคุณวุฒิทางวิชาชีพเพื่อประกอบสายอาชีพ 

  1. สถาบันอาชีวศึกษาของรัฐบาล มี 500 กว่าแห่ง เปิดสอนหลักสูตร วิชาบริหารธุรกิจ การโรงแรม วิศวกรรมศาสตร์ ช่างเทคนิค การเกษตร เป็นต้น เมื่อศึกษาจบจะได้วุฒิบัตรจาก Business and Technician Education Council (BTEC) 
  2. สถาบันอาชีวศึกษาของเอกชน เลือกสถาบันที่ได้รับรองจาก The British Accredition Council for Further and Higher Education (BAC) จะได้มาตรฐานการเรียนการสอนที่เชื่อถือได้ เมื่อเรียนจบได้ใบประกาศนียบัตร 
  • GNVQ (General National Vocational Qualification) การศึกษาแบบกึ่งสายอาชีพ เรียนทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ มี 4 ระดับ คือ GNVQ Foundation, GNVQ Intermediate, GNVQ Advanced และ GNVQ 4
  • NVQ (National Vocational Qualification) วุฒิการศึกษาสายอาชีพและปฏิบัติวิชาชีพเฉพาะ แบ่งเป็น 5 ระดับ NVQ1 –  NVQ5 
  1. Higher Education หรือระดับอุดมศึกษา 

Undergraduate

  • Higher National Certificate Diploma (HNC/HND) หรือ Diploma of Higher Education   ศึกษาระดับวิชาชีพระดับสูงสุด หลักสูตรเรียน 2 ปี ซึ่งระดับนี้เป็นการศึกษาระดับอุดมศึกษา (Higher Education) รับผู้ที่จบ NC/ND หรือมีคุณวุฒิ GCSE 3 วิชา + GCE “A” Level  1 วิชา ผู้ที่จบระดับนี้ได้คุณวุฒิที่สูงกว่าอนุปริญญาของไทยแต่ ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี 1 ชั้น  แต่หากเปลี่ยนใจจะเรียนต่อป.ตรี ก็ทำได้โดยการเรียนเพิ่มเติมอีก 2 ปี ผลการเรียนต้องอยู่ในระดับดี

เปิดสอนใน  college of Higher Education มี

  • First Degree (Bachelors Degree) ปริญญาตรี

เรียนปริญญาตรีในอังกฤษใช้เวลาเรียนประมาณ 3 ปี หากน้อง ๆ เรียนคณะศิลปศาสตร์ (Bachelor of Arts – BA), คณะบริหารธุรกิจ (Bachelors of Business Administration – BBA), คณะศึกษาศาสตร์ (Bachelor of Education – B.Ed.) , คณะวิทยาศาสตร์, คณะนิติศาสตร์ 

สำหรับหลักสูตรที่เรียนมากกว่า 3  ปี มี วิศวกรรมศาสตร์(4 ปี), สถาปัตยกรรมศาสตร์ (5 ปี) , ทันตแพทย์ (5 ปี) และแพทย์ศาสตร์ (6 ปี) เป็นต้น 

สำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่ระบบการศึกษาต่างจากอังกฤษ ก่อนเข้าเรียนปริญญาตรีได้ต้องเรียนปรับพื้นฐาน หรือ Foundation Program เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าเรียนในระบบการศึกษาของอังกฤษ ใช้เวลาเรียนประมาณ 9 เดือน – 1 ปี ต่อจากนั้นจึงเริ่มต้นเรียนปริญญาตรีได้

Post-Graduate สูงกว่าระดับปริญญาตรี

  • Post – Graduate Certificate Diploma เรียน 9 เดือน – 1 ปี ผู้ที่สามารถเรียนได้ต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี
  • Master Degree (ปริญญาโท)

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษส่วนใหญ่เรียนเพียงปีเดียวเท่านั้น (อาจเรียน 2 ปี ในบางสาขา) 

  • Doctoral Degree  เป็นหลักสูตรทำการวิจัย ระยะเวลาเรียน 3 ปี 

Related Link

: https://wenr.wes.org/wp-content/uploads/2016/02/WENR-0216-Country-Profile-UK-new.png 

: https://www.ucas.com/further-education/thinking-about-university 

: ทำงานได้หลังเรียนจบ 2 ปี

#ปีการศึกษาในประเทศอังกฤษ

  • ภาคต้น Autumn Term เริ่มเรียนช่วงปลายกันยายน – กลางธันวาคม
  • ภาคกลาง Spring Term เริ่มเรียนช่วงกลางมกราคม – ปลายมีนาคม
  • ภาคปลาย Summer Term เริ่มเรียนช่วงปลายเมษายน – ต้นกรกฎาคม

#เลือกโปรแกรมเรียนที่ใช่เพื่อตอบโจทย์ก่อนตัดสินใจ

ขั้นตอนแรกก่อนการเลือกโปรแกรม ต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากไปเรียนอะไร เรียนภาษาเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ  หรือเรียนต่อปริญญา เมื่อตัดสินใจเลือกแล้วจึงเลือกว่า อยากไปเรียนที่เมืองไหน เพื่อให้เราได้พบกับความสุข สนุกสนานในระหว่างที่เรียนอยู่ เพราะสภาพแวดล้อมมีผลต่อการใช้ชีวิตและการเรียนอีกอย่างให้คำนึงถึงภูมิอากาศด้วยนะคะ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เลือกเมืองที่เหมาะและเอื้อต่อสุขภาพกายและใจกับตนเอง แต่เด็กไทยบางคนก็อาจจะมืดแปดด้านว่า จะเริ่มยังไงกับแผนการเรียนต่อนี้ดี ABROADY ให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงส่งน้องขึ้นเครื่องไปเรียนที่อังกฤษเลยค่ะ  

#เช็คก่อนว่าทำงานได้มั้ย อย่างไร

ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนลงเรียน 

  • ปริญญาตรี (Undergraduate) หรือ ปริญญาโท (Master level) ทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
  • Overseas higher education institution in the UK ทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
  • ผู้ที่เรียนในวิทยาลัย (College) หรือ โปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษ ทำงานได้ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

สำหรับจำนวนชั่วโมงที่ทำงานได้ในระหว่างภาคเรียนการศึกษา จะพิมพ์ลงบนสติกเกอร์วีซ่าหรือใบอนุญาตพำนักชั่วคราว (Biometric Residence Permit- BRP) 

งาน Part-time ที่เด็กนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ทำกัน เช่น ทำงานในสถาบันหรือมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่, ร้านกาแฟ, บาริสต้า, พนักงานขายในร้านเสื้อผ้า 

Related Link

: https://www.ukcisa.org.uk/Information–Advice/Working/Tier-4-work 

: บัตรอนุญาตให้พำนักอยู่ในอังกฤษ หรือ Biometric residence permits (BRPs)และ biometric residence cards (BRCs) update September 2018

#วางแผนหลังเรียนจบ

สำหรับนักศึกษาเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป

Post Study Work Visa เป็นโอกาสดีมากสำหรับนักเรียนต่างชาติที่จบการศึกษาระดับ ปริญญาตรีหรือสูงกว่าที่มีสิทธิ์สมัครยื่นวีซ่านี้ได้เมื่อจบการศึกษา สำหรับนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนระดับปริญญาขึ้นไปในปี 2020/2021 เปิดให้กับทุกสาขาวิชา นักศึกษามีสิทธิ์ที่จะใช้วีซ่า 2 ปีในการหางาน ทำงาน ไม่มีข้อจำกัดประเภทงานหรือทักษะใดๆ สรุปคือนักศึกษาทุกคนจะมีสิทธิ์ได้วีซ่านี้หลังเรียนจบค่ะ 

*สำหรับนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนภาษาอังกฤษหลังเรียนจบไม่สามารถทำงานได้ค่ะ

Trick : นักเรียนควรยื่นสมัครวีซ่าประเภทนี้ก่อนวีซ่าปัจจุบันหมดอายุ วางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน 

“เรียนต่อต่างประเทศได้อะไรมากว่าที่คุณคิด รู้แบบนี้แล้ว ไปหาโปรแกรมเรียนกันเลยคะ “

ถ้าพร้อมแล้ว Let’s Go

รู้แบบนี้แล้วรอช้าอยู่ใย รีบตามหาโปรแกรมที่ใช่ ประเทศที่โดน แล้วไปพัฒนาศักยภาพในตัวกันเลยค่ะ พี่ๆ ABROADY ได้แนบลิ้งค์เพื่อให้น้อง ๆ พี่ ๆ ได้เข้าไปเพื่อสามารถเช็คโปรแกรม ประเทศ และราคาได้ด้วยตัวเองด้านล่างนี้ พร้อมสามารถกดจองโปรแกรมที่สนใจไว้ได้เลย หากมีข้อสงสัยด้านการไปเรียนต่อต่างประเทศสอบถามทีมงาน ABROADY ได้ตลอดเวลาค่ะ

คุณชอบบทความนี้

หากอยากรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มเติม คลิก

บทความ เรียนต่อต่างประเทศ

แชร์ :

การสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้ชื่อว่าเป็นสนามสอบที่หินมากสนา...

แชร์ :

การสอบเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้ชื่อว่าเป็นสนามสอบที่หินมากสนา...

Re view

S__12107787

"

ตอง เรียน MBA ที่ California State University, Los Angeles

เอเจนซี่ที่ใช้คือ abroady ชื่อพี่แนน อันนี้แฟนแนะนำมา สัมรอบ2ผ่านใช้เอเจนฯเดิม แนะนำช่วยเหลือตลอดจนรอรับที่สนามบินที่LA
5/5
Mark

"

มาร์ค เรียน Associate Arts, Music ที่ Santa Monica College

แนะนำโปรแกรมได้ถูกใจและตรงตามงบประมาณที่request รอต้อนรับที่สนามบินLAX ขอบคุณพี่แนนมากๆครับ
5/5
241510055_1478099405900497_3297524323225813503_n

"

ป่าน เรียน ESL ที่ Melbourne Australia

ตอนแรกจะเรียนภาษาแค่6เดือน เรียนสนุกขอเรียนต่ออีก6เดือนโดยไว้ใจให้ ABROADY ดูแลต่อ แนะนำABROADYครับ
5/5
IMG_7300

"

โหน่งเรียน Master of Speech Pathology ที่ University of Canberra

ให้บริการดีมาก เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและช่วยจัดเตรียมเอกสารครบถ้วน ไม่ติดขัดหรือตกหล่น ควรเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น Line แล้วมีการตอบรับล่าช้าบ้าง
5/5
A4CA12AB-6206-4994-90FA-8BE3F037D872

"

ไอซ์ เรียน ​MBA ที่ California State University, Los Angeles

ดูแลทุกขั้นตอน มารับถึงสนามบิน ให้คำปรึกษาตรงจุดค่ะ
5/5
เรียนอะไรดี
เรียนอะไรดี
เรียนคณะอะไรดี?
เรียนคณะอะไรดี?